ผัดกะเพรา อาหารโบราณ ที่มีอายุมากกว่า 334 ปี

เพื่อน ๆ รู้ไหมคะว่า ผัดกะเพรา อาหารบ้าน ๆ ตามร้านตามสั่งที่ใคร ๆ ก็ต้องเคยสั่งทานกันใช่ไหมล่ะคะ แต่ความจริงแล้วอาหารอย่าง ผัดกระเพรา นั้นเป็น อาหารโบราณ ที่มีอายุมากกว่า 334 ปี เลยทีเดียว

ผัดกะเพรา เป็นอาหารจานเดียวของไทย ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดจานหนึ่ง เป็นอาหารริมทาง อาหารตามสั่งที่มีทั่วไป ในประเทศไทย จนบางครั้งมักมีผู้คนเรียกว่า เมนูสิ้นคิด เนื่องจากเมื่อจะสั่งอาหารแล้ว ไม่รู้ว่าจะรับประทานอะไร ก็มักจะสั่งผัดกะเพราแทน

ผัดกะเพรา มีประวัติอย่างไรนะ ?

จากหลักฐาน จดหมายเหตุของ มองซิเออร์ เดอ ลาลูแบร์ ในปี พ.ศ. 2230 ได้ระบุถึงใบกะเพราไว้ว่า “ ผักลางชนิดที่มีกลิ่นดี เช่น กะเพรา ” มีข้อสันนิษฐาน น่าจะรับเอาต้นกะเพรา มาจากศาสนาพราหมณ์ เพราะพราหมณ์ มักจะใช้กะเพรา สำหรับบูชาเทพเจ้า ส่วนที่บันทึกไว้ใน อักขราภิธานศรับท์ ของหมอ บรัดเล ในปี พ.ศ. 2416 ให้ความหมายว่า " ผักอย่างหนึ่ง ต้นเล็ก ๆ ใบกลิ่นหอม ใช้แกงกินบ้าง ทำยาบ้าง "

ซึ่งผัดกะเพรา น่าจะเกิดขึ้น ราวสมัยรัชกาลที่ 7 เพราะคนจีน นำเอามาขาย ในร้านอาหารตามสั่ง อย่างไรก็ดี ผัดกะเพรา น่าจะเพิ่งนิยมราว ในปี พ.ศ. 2500 โดยน่าจะดัดแปลง จากอาหารจีน ที่ตำรับจีน เอาเต้าเจี้ยวดำผัด กับกระเทียมเจียวให้หอม แล้วจึงเอาเนื้อสับ หรือ ไก่หั่นเป็นชิ้น ๆ ลงไปผัดกับน้ำปลา และ ซีอิ๊วดำ บ้างก็ว่าเลียนแบบมาจาก เนื้อผัดใบยี่หร่า

สำหรับผัดกะเพรา ที่ปรากฏในตำรา กับข้าวยุคปลายปี พ.ศ. 2520 อย่างใน ตำราอาหารชุดจัดสำรับ ระบุว่าผัดกะเพราเนื้อ จะปรุงด้วยน้ำปลา และ ผงชูรส เท่านั้น แล้วเอาข้าวลงไปผัดคลุก เป็นข้าวผัด กินกับถั่วฝักยาวสด เป็นต้น

วัตถุดิบของผัดกะเพรา มีอะไรบ้าง ?

วัตถุดิบประกอบด้วย เนื้อสัตว์ ใบกะเพรา พริก กระเทียม บางร้านก็นิยม ใส่ผักชนิดอื่น ๆ ลงไปด้วย เช่น ข้าวโพดอ่อน แครอท หอมหัวใหญ่ ถั่วฝักยาว เป็นต้น

เนื้อสัตว์ที่ใช้ ในการทำผัดกะเพรา ได้แก่ เนื้อไก่ เนื้อหมู เนื้อวัว กุ้ง ปลาหมึก หรือแม้แต่ ปลา หอยแมลงภู่ เนื้อปู เป็นต้น

วิธีการปรุง ใช้วิธีการผัดวัตถุดิบ เข้าไปด้วยกัน มีการปรุงรสด้วย น้ำปลา น้ำตาล บ้างใส่ผงชูรส ซีอิ๊วดำ พริกไทยป่น ซึ่งบางร้านก็เติมน้ำสต๊อก พอให้ขลุกขลิก รับประทานกับ ข้าวสวยร้อน ๆ อาจกินด้วยกับไข่ดาว มีน้ำปลาพริก เป็นเครื่องปรุงให้ รสหอม และ เผ็ดขึ้นค่ะ

เคล็ดลับอัพเกรด ความอร่อย ของผัดกะเพรา

- ใช้กระเทียมไทย จะหอมกว่า กระเทียมจีน

- ถ้าอยากให้เผ็ด ก็เพิ่มพริกขี้หนูลงไป แล้วตำให้แหลก ยิ่งแหลกยิ่งเผ็ด

- กระเทียมที่ใช้ ไม่ต้องแกะเปลือกหมด เวลาเอาไปผัดติดเปลือกแล้ว กลิ่นจะหอมมาก

- ถ้าหาใบกะเพราบ้าน ใบเล็ก ๆ หรือ กะเพราแดง ได้จะดีมากเลย กลิ่นหอมกว่ากะเพราใบใหญ่ ที่ซื้อจากตลาด

- กะเพราที่เด็ดมาจากต้น หรือ ซื้อมาแล้วให้รีบใช้ หากเก็บไว้นาน กลิ่นหอมจะหาย เหลือแต่กลิ่นเขียว ๆ ของผัก

- หากชอบผัดกะเพรา แบบน้ำขลุกขลิก ให้เติมน้ำเปล่าลงไปอีกได้

- หากชอบ ผัดกะเพราแห้ง ๆ แนะนำให้ผัดจนแห้ง หรือ ใช้สูตรแค่น้ำปลา กับน้ำตาลทราย

- ใช้น้ำมันแค่นิดเดียว หากใส่เยอะกะเพราจะเลี่ยน ( หากใส่น้ำมันหอยด้วย )

หากเพื่อน ๆ คนไหน ที่อยากลอง ลิ้มรสผัดกะเพราอร่อย ๆ ถูกต้องตามตำหรับโบราณแท้ ๆ เราขอแนะนำ ผัดกะเพราหมู และ ผัดกะเพราทะเล ที่ร้าน โคโค่ เจ้าพระยา ( Coco Chaophraya ) ได้นะคะ หากใครที่ยังไม่สะดวก จะเดินทาง มาทานที่ร้าน เราก็มีบริการ เดลิเวอรี่ ส่งตรงความอร่อย ถึงบ้านด้วยค่ะ

ร้าน โคโค่ เจ้าพระยา ( Coco Chaophraya )

ที่อยู่ : 49/1 ถนน พระสุเมรุ แขวง ชนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200

โทร : 02 281 9918

เวลาเปิดบริการ : จันทร์ – อาทิตย์ เวลา 09:00 – 00:00 น.

อ่านบทความเพิ่มเติม

พิซซ่า มาการิต้า ( Pizza Margherita ) จาก อิตาลี แท้ ๆ

กุ้งอบวุ้นเส้น เมนูสไตล์ไทย ๆ ของทาง โคโค่ เจ้าพระยา ( Coco Chaophraya )